13 มิถุนายน 2566 - ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พร้อมด้วย ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ (กลุ่มงานโครงการพิเศษและศูนย์พัฒนาดิจิทัลและนวัตกรรม) และ ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส ร่วมให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจาก Nokia นำโดย Mr. Ricky Corker Chief Customer Experience Officer, Mr. John Harrington Senior Vice President, Asia - Pacific and Japan, Mr. Daniel Jaeger Vice President and Head of South East Asia และ Mr. Ajay Sharma Country Head, Nokia Thailand & Cambodia ในโอกาสเข้าหารือแนวทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
โดย Nokia ได้นำเสนอแนวทางการดำเนินงานด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล การสื่อสาร และการให้บริการแก่ภาคประชาชนด้วยความเข้มแข็งของ Nokia ที่ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมายาวนานกว่า 100 ปี และมีความตั้งใจในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ช่วยให้คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถทำงานเชื่อมโยงกัน รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายไร้สาย และระบบคลาวด์ขึ้นด้วย
นอกจากนี้ depa และ Nokia ยังได้หารือเกี่ยวกับประเด็นด้านการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในภาคธุรกิจ รวมถึงการให้บริการ Private Network ในพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมหรือโรงงานผลิตรถยนต์ พร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางการจัดตั้งศูนย์เพื่อเป็นเครือข่ายด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงพื้นที่แลกเปลี่ยนเพื่อการพัฒนานวัตกรรมในภูมิภาค Asia - Pacific และประเทศญี่ปุ่น อาทิ Local 5G Lab-as-a-Service (LaaS) ในประเทศญี่ปุ่น Cloud Collaboration Hub ในประเทศสิงคโปร์ และ 5G Futures Lab ในประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น
ด้าน ผศ.ดร.ณัฐพล ได้เล่าถึงโครงการ Thailand Digital Valley ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระบบนิเวศด้านดิจิทัลสำคัญที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการออกแบบ พัฒนา วิเคราะห์ ทดสอบ ทดลองเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลขั้นสูงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN Digital Hub) เชื่อมโยงเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกและในประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลระหว่างกัน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ (Hardware and Smart Devices) เทคโนโลยีด้านการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) รวมถึงเทคโนโลยี IoT, AI, Software Convergence, Cloud Innovation และ Digital Service นอกจากนี้ยังทำให้เกิดบทบาทและจุดยืนในอุตสาหกรรม Digital Content, Animation, Game และ E-SPORTS
พร้อมกันนี้ Thailand Digital Valley จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศ เพราะเป็นพื้นที่ที่จะสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุน และผลักดันให้เกิดศูนย์กลางความร่วมมือด้านการค้าระดับสากล ส่งเสริมให้คนไทยก้าวไปสู่เวทีระดับโลกในบทบาทเจ้าของเทคโนโลยีที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นจะนำไปสู่การใช้งานจริง รองรับภาคอุตสาหกรรมและปริมาณความต้องการใช้ดิจิทัลโซลูชันจากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศที่อยู่ระหว่างการยกระดับสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดย depa ประเมินว่า โครงการ Thailand Digital Valley จะทำให้เกิดการจ้างงานด้านดิจิทัลในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 20,000 ราย สร้างมูลค่าการลงทุนภายในประเทศมากกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี
